คุณค่าการให้นมแม่เกิน 1 ปี
อา, 03/01/2009 – 16:25
โดย ศิริพัฒนา ศิริธนารัตนกุล
“ลูกสาวอายุ 1ปี ค่ะ หนัก 9.3 กิโลกรัม สูง 72 ซม. คุณหมอบอกว่าสูงน้อยไป ให้เลิกกินนมแม่ได้แล้ว เพราะ สารอาหารไม่ค่อยมี อยากทราบว่าหลัง 1 ปี ไม่ควรกินนมแม่แล้วหรือคะ”
นี่คือหนึ่งในคำถามที่แม่ที่ให้นมแม่จนลูกถึง 1 ปี มักจะสงสัย เพราะ ถูกผู้คนรอบข้างทัก หรือบอกให้เลิกกินนมแม่ ทั้งๆที่ความสูงของเด็กส่วนหนึ่งมาจากกรรมพันธุ์ด้วย ไม่ใช่จากอาหารอย่างเดียว แต่นมแม่มักเป็นแพะรับบาปอยู่เสมอๆ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม เช่น ตัวเล็ก ไม่กินข้าว ตื่นบ่อย จะต้องหาว่ามาจากนมแม่ไว้ก่อน
ในสังคมไทยสมัยก่อนที่เราจะมีการนำเข้านมผง เด็กไทยก็ได้นมแม่กันจน 2-3 ปีเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ในปัจจุบันหากใครให้นมแม่จนลูกวิ่งได้คนมักจะเห็นเป็นเรื่องแปลก เพราะอัตราการกินนมแม่ถึง 6 เดือนของเด็กไทยมีเพียง 5.3% เท่านั้น อัตราการกินนมแม่ถึง 1 ปียิ่งน้อยลงไปกว่านั้นอีก
ในคนกลุ่มน้อยที่ให้นมแม่กันนานๆเช่นนี้ จึงมารวมกลุ่มกันเพื่อให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และช่วยให้คุณแม่คนใหม่เริ่มต้นให้นมแม่ได้ โดยมีชุมชนบน internet ของศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย(www.thaibreastfeeding.org) เป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และความเห็นต่างๆ เราตัดสินใจนำเรื่องราวดีๆมาเผยแพร่เพราะ
อยากให้ครอบครัวอื่นๆ ได้มีโอกาสเข้ามาอ่านเรื่องราวของนมแม่
เพราะครอบครัวอื่นๆ รอบๆ ตัวมีแต่คนที่พยายามจะให้ลูกของเขากินนมวัวและพยายามจะให้เราหย่านม
ตอนแรกก็พูดคุยชักชวนอธิบายแต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดพวกเขาได้เลย”- คุณj-jaru
มาดูกันค่ะว่าหลังจากอ่านเรื่องราวที่คุณแม่ให้นมแม่กันนานๆ เป็นปีสองปีบางคนถึง 3-4 ปีแล้วจะเปลี่ยนความคิดกันได้หรือเปล่า
“การให้นมแม่นานจนเกิน 1 ปี ได้ให้คุณค่าอะไรกับคุณแม่และลูกบ้าง?”
เราเปิดประเด็นนี้ขึ้นมาเพราะ เมื่อให้นมแม่กันมาถึงจุดหนึ่ง เช่น 9 เดือน หรือ 1ปี จะเริ่มมีคำถามจาก เพื่อน บ้าง คุณป้าคุณน้าผู้ประสงค์ดี แต่ไม่เข้าใจเรื่องนมแม่บ้าง จนบางครั้งเกิดความกดดัน และทำให้ท้อใจ หลายๆครั้งมีคำถามมาจากแพทย์ที่พาลูกไปหาว่า ทำไมยังให้นมลูกอยู่อีกหรือ นมแม่หลัง 1ปี ไม่มีประโยชน์แล้ว
ความจริงคือ “น้ำนมแม่ยังอุดมด้วยสารอาหารไม่ว่าจะให้นมแม่ไปนานเท่าใดก็ตาม”
ลองคิดดูนะคะว่าน้ำนมแม่ที่ผลิตมาจากสองเต้าของแม่นี้ อยู่ๆพอลูกมีอายุถึง 6 เดือน หรือ 1ปี ทันใดนั้นน้ำนมแม่ฉับพลันก็กลายเป็นน้ำสีขาวที่ไม่มีสารอาหารไปได้อย่างไร สารอาหารต่างๆ โปรตีน ไขมัน แลคโต๊ส สารภูมิต้านทาน ที่เคยเป็นส่วนประกอบของนมแม่อย่างไร ก็ยังคงอยู่อย่างเดิม ไม่ได้หายไปไหน เพราะเต้าก็เต้าเดิม แม่กินอาหารก็เหมือนเดิม นมแม่ที่ออกมาจึงไม่มีทางที่จะสิ้นคุณค่า ถ้ามีคนแย้งว่า ก็เต้านมแม่ผลิตน้ำนมมาตั้งปีหนึ่งแล้ว นมจะไม่เสื่อมถอยคุณภาพบ้างหรือ ถ้าอย่างนั้นขอให้ไปถามที่ฟาร์มโคนมดูสิคะ ว่าแม่วัวแต่ละตัวผลิตนมวัวมานานตัวละกี่ปีกันแล้ว เราก็ยังเอานมวัวมาทำ เป็นผงให้ลูกคนกินได้เลย ทำไมไม่มีใครเคยสงสัยบ้างล่ะว่านมจากแม่วัวที่ให้นมมาแล้ว 1 ปีจะมีประโยชน์หรือ แต่ที่แน่นอนคือ “สารอาหารในนมแม่เหมาะสมกับลูกของแม่มากกว่านมของแม่วัวในทุกช่วงอายุ”
สายใยรัก ความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูก สิ่งที่คุณแม่ทุกๆท่านเห็นพ้องต้องกันคือเรื่องของสายใยรักระหว่างแม่ลูก
แม่บี : “ระหว่างให้นม บีกับลูกจะคุยกันเล่นกัน แม่จะพูดหรือสวดมนต์ สอนสิ่งที่อยากสอนไปได้เรื่อยๆ ส่วนลูกก็จิ้มหน้าจิ้มตา จับจมูกแม่ หัวเราะเอิ๊กอ๊าก สนุกมากๆ”
แม่จอย: “เรื่องความอบอุ่น ผูกพันทางใจ ที่ไม่มีใครจะสัมผัสได้เท่ากับเราแม่ลูก” ช่วงเวลาที่ให้นมลูกจะเป็นช่วงเวลาพิเศษที่แม่ลูกจะ สื่อสารกัน ส่งผ่านความรักระหว่างกัน ความอบอุ่นนี้จะยังคงอยู่กับลูกตลอดไป
แม่น้องนาย : “เวลาที่ให้นมลูกกิน แสนจะวิเศษค่ะ เวลาให้นมลูกแม่ลูกได้กอดกันลูกอยู่แนบอกแม่ สื่อสารสายใยรักกัน ตาลูกมองแม่ สายตาแม่มองลูก ได้หยอกเล่นกัน แสนจะมีความสุขค่ะ”
Sugas88: “ทุกครั้งที่เค้ากินนม เค้าจะเอามือจับโน่นจับนี่ หน้าบ้าง คอบ้าง สบตากันบ่อยๆ รู้สึกเลยว่าเค้าเองก็รักเรามากเหมือนกัน นอนกอด กันทุกคืน’’
แม่แก้ว : “รู้สึกลึก ๆ ว่าตราบใดที่ลูกยังดูดนมเราอยู่ ลูกก็เป็นของเรา เราเป็นคนพิเศษสุด ๆ สำหรับเค้าที่ไม่มีใครจะมาแทนค่ะ…. .เวลานอนกอดลูก ให้เค้าดูดนม แล้วหลับไปด้วยกัน มีความสุขมากค่ะ อยากเก็บเวลานี้ไปนาน ๆ”
หมอสุธีรา : “คนเล็กตอนนี้ 4 ปี 7 เดือนแล้ว ความทรงจำจะติดตัวเขาไปตลอดชีวิต ความอบอุ่นที่ได้รับขณะดูดนมแม่ จะช่วยให้เขา มีจิตใจที่มั่นคง รักและให้เกียรติผู้หญิง ไม่เป็นเด็กมีปัญหา”
ลูกอารมณ์ดี มีพัฒนาการดี
Sugas88:”ลูกสาวมนุษยสัมพันธ์ดีมาก ร่าเริง อารมณ์ดี จะมีงอแงก็เฉพาะง่วงนอนเท่านั้นเอง อาม่าออกปากชมเลยว่าเค้าเลี้ยงง่าย และฉลาด ถึงจะซนตามประสาเด็กค่ะ”
แม่เนตร :”เด็กนมแม่ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กอารมณ์ดียิ้มง่ายกันทั้งนั้น เนตรว่ามันน่าจะมีผลมาจากการที่ได้ใกล้ชิดกับแม่ แม่ได้โอบกอดลูกเวลาให้นมค่ะ………. พัฒนาการดีและเร็ว….. มีแต่คนบอกว่าลูกเราพัฒนาการเร็ว สามารถพูดจากันรู้เรื่อง ฟังคำสั่งและทำตามได้ (ถ้าอยากทำ) ความจำดีสามารถท่องหนังสือนิทานได้ทั้งเล่มหลายเล่ม จำชื่อคนแม่น ฯลฯ ค่ะ ทั้งหมดนี้ยกประโยชน์ให้นมแม่หมดเลย”
แม่ Jazzy: ตั้งแต่ลูกเกิด เวลาลูกดื่มนมดิฉันจะคุยกับลูก พูดซ้ำๆ คำเดิมๆ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ลูกพูดได้เร็ว
การสัมผัสโอบกอดลูกช่วยกระตุ้นเส้นใยประสาท ทำให้มีการแตกแขนงของโยงใยประสาทในสมองมากขึ้น อีกทั้งการพูดคุยกับลูก มีการสื่อสารทางสายตาระหว่างแม่-ลูก และสารอาหาร เช่น DHA ในนมแม่ล้วนส่งผลต่อระดับเชาน์ปัญญาในเด็กที่กินนมแม่ ดังจะเห็นได้จากผลการวิจัยของ Lucas A และคณะ (1992) พบว่าปริมาณนมแม่ที่ให้กับทารกมีผลโดยตรงต่อคะแนนเชาน์ปัญญา โดยเฉพาะค่าคะแนนทางด้านการพูด (verbal scale) สูงกว่าทารกที่ไม่ได้รับนมแม่ถึง 9 จุด นั่นคือ ยิ่งให้น้ำนมแม่เป็นระยะเวลานานมากขึ้นเท่าใด ก็จะมีผลให้สมองพัฒนามากขึ้นตามไปด้วยค่ะ
นอกจากประโยชน์ด้านพัฒนาการสมอง ร่างกาย และสุขภาพกายแล้ว การให้นมแม่ยังมีผลต่อความฉลาดทางอารมณ์ด้วย จากผลการวิจัยเพื่อศึกษาความฉลาดทางอารมณ์ของเด็กที่เลี้ยงด้วยนมแม่โดย ดร.วีณา จีระแพทย์ และคณะ พบว่า เด็กกลุ่มที่เลี้ยงด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน มีคะแนนเฉลี่ยของความฉลาดทางอารมณ์โดยรวมและรายด้าน (ด้านดี เก่ง และสุข) สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของความฉลาดทางอารมณ์ของเด็กกลุ่มที่เลี้ยงด้วยนมแม่ร่วมกับนมผสม และของกลุ่มเด็กที่เลี้ยงด้วยนมผสมร่วมกับอาหารเสริมอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และยังพบว่าระยะเวลาของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวมีความเกี่ยวข้องกับความฉลาดทางอารมณ์ กล่าวคือ กลุ่มที่ให้นมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน มีคะแนนเฉลี่ยของความฉลาดทางอารมณ์โดยรวมสูงกว่าของกลุ่มที่ได้นมแม่อย่างเดียว 4 เดือน และ 1 เดือนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ภูมิคุ้มกันจากนมแม่
สารอาหาร และ ภูมิคุ้มกันประเภทเซลล์ และ immunoglobulin ยังคงมีอยู่ในนมแม่เสมอแม้จะเข้าขวบปีที่สอง มีหลักฐานยืนยันว่าทารกที่กินนมแม่เป็นระยะเวลานานจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น การติดเชื้อ Hemophilus influenza type B ซึ่งมีแนวโน้มพบในทารกที่กินนมผสมมากกว่า มีหลักฐานพบว่าการให้นมแม่เป็นเวลานานช่วยป้องกันเด็กเล็กจากโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง
Gatoon :“ตอนลูกไม่สบายไม่ยอมกินอะไร กินแต่นมแม่ ลูกจะหายไวมากค่ะ “
แม่น้องปาย :“ลูกเป็นเด็กแข็งแรงมาก ตั้งแต่อายุ 1 ปี จนปัจจุบัน 1 ปี 7 เดือน จำไม่ได้เลยว่าป่วยบ้างหรือเปล่า โรคหวัดน้ำมูกไหลไม่เคยได้แอ้มน้องปายท้องร่วงท้องเสียไม่เคยเป็น”
แม่แก้ว :”นมแม่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติให้อยู่แล้ว ลูกแข็งแรงไม่ค่อยจะป่วย แทบไม่ป่วยเลยตอนที่กินนมแม่อยู่ เรื่องท้องเสียเนี่ยตอนกินนมแม่ไม่มีเลยค่ะ ลูกของเพื่อนวัยเดียวกันท้องเสียไปหลายรอบแล้ว”
คุณแม่ที่เคยให้นมแม่จนลูกเกินขวบทุกคนต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “นมแม่ช่วยปลอบประโลมยามลูกเจ็บ หรือป่วย “ การเ อาลูกเข้าเต้าเหมือนเป็นการเติมความรัก ยืนยันความรักที่พิเศษสุดระหว่างแม่ลูก ไม่ว่าลูกจะกลัว จะเจ็บหรือ อารมณ์ขุ่นมัวมาจากไหน ลูกสงบลงทันทีที่ได้อยู่ในอ้อมกอดและได้ดูดนมแม่
แม่เปิ้ล :”พอเริ่มเดินได้ เดี๋ยวเจ็บนั่นเจ็บนี่เรื่อย บางทีเลือดออกบ้างก็มี ร้องไห้ไม่หยุด เอาเข้าเต้าเดี๋ยวเดียวเงียบได้ทันตาเห็น อีกไม่นานก็เล่นใหม่ได้เลยค่ะ”
แม่บี : “เวลาลูกหกล้มหรือร้องไห้จ๊ากๆ (เช่นจากฝันร้าย) ลูกได้ดูดนมแม่แล้วเห็นว่าลูกเรามีสีหน้าที่สบายใจขึ้นมาก เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ”
แม่มีความสุขกายสบายใจ
Sugas88 :”ส่วนตัวแม่รู้สึกได้เลยว่าสุขภาพดีขึ้น ก่อนท้องขึ้นบันไดแค่ 1-2 ชั้นก็เหนื่อยหอบแล้ว เดี๋ยวนี้สบายมาก จากที่ไม่เคยเลือกกินอาหารที่ มีประโยชน์ พอรู้ว่าท้องจนถึงตอนนี้เลือกกินอาหารมากขึ้น คิดเสมอว่าลูกจะได้สารอาหารอะไรจากเราบ้าง วันนี้กินครบ 5 หมู่หรือยัง แข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูกเลยค่ะ”
แม่บี :”ไปตรวจไขมันในเลือด มันลดลงอย่างไม่ได้ตั้งใจเลยค่ะ …… เพราะตอนที่เราให้นมลูก เราดูแลตัวเองมากขึ้นเพราะต้องการให้คุณภาพสารอาหารไปถึงลูก ตัวแม่ก็รับผลพลอยได้ไปด้วยค่ะ สุขภาพดีขึ้นกว่าตอนที่ไม่มีลูกอีกนะ”
หมอสุธีรา : “การเผาผลาญพลังงานดีขึ้น ลูกและแม่ไม่เป็นโรคอ้วน เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง”
แม่ไม่ต้องมีประจำเดือน.เป็นเวลานาน เป็นการลดความเสี่ยง ในการเป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ผิดที่ (endometriosis ซึ่งเป็นสาเหตุของการมีลูกยากและปวดประจำเดือน.) ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งรังไข่” “endorphin และ oxytocin เป็นฮอร์โมนแห่งความสุข หลั่งออกมาทั้งแม่และลูก เวลากลับจากที่ทำงาน ทั้งเหนื่อยและหิว แต่พอเอาลูกเข้าเต้าปุ๊บ รู้สึกผ่อนคลายทันที”
ประหยัด สู้ยุคเศรษฐกิจถดถอย
แม่อ้อม : “ ประหยัดเวลาไม่ต้องเตรียมนม….ประหยัดค่าใช้จ่าย”
หมอสุธีรา : “ประหยัดค่านมไปเป็นแสนบาทแล้วค่ะ ค่านมผงเดือนละ 3-4 พัน หมอให้นมมาเจ็ดปีแล้วตั้งแต่ลูกคนโต”
แม่แก้ว: “คนเป็นแม่ต้องงกไว้ก่อน อะไรไม่ควรจ่ายก็อย่าไปจ่ายค่ะ นมเรายังมีอยู่กับตัว จะไปเสียตังค์ซื้อทำไมกันคะ”
แม่กุ๊ก: “ช่วยเรื่องฝึกลูกกินผัก ตอนท้องกับตอนให้นมกินแหลกค่ะ สังเกตว่ามีอาหารหลายอย่างรวมทั้งผัก ที่ลูกชอบกินและกินได้ จะเป็นประเภทเดียวกัน น่าจะเป็นไปตามที่ทราบมาว่าน้ำนมแม่จะมีรสชาดเปลี่ยนไปตามอาหารที่แม่กิน ลูกเค้าก็คุ้นเคยตั้งแต่ตอนกินนมแม่”
ประโยชน์ต่อโลกคือ ลดโลกร้อน ลดขวด ลดกระป๋อง ลดขยะต่างๆ ลดค่าเดินทาง (หาหมอ) ลดมลภาวะ ลดการใช้น้ำใช้ไฟ (ต้มนึ่ง)
…….. ตอนนี้เราสรุปกับพ่อของลูกแล้วว่าจะให้นมแม่ไปเรื่อยๆแบบไม่มีลิมิตว่ากี่ปีกี่เดือน
จะให้ไปจนนมหยดสุดท้ายหรือลูกไม่ต้องการเลยค่ะ breastfeeding unlimited ……แม่น้องปาย
พวกเราอยากให้เด็กไทยได้รับนมแม่กันมากๆและนานๆค่ะ นอกจากประโยชน์มากมายที่กล่าวมาแล้วยังมีประโยชน์ที่ยังไม่เคยเปิดเผยเป็นทางการในที่ใด ถ้าอยากรู้เห็นทีจะต้องตามไปฟัง(อ่าน) ที่คุณแม่ทั้งหลายคุยกันว่าทำไมจึงไม่อยากจะหยุดให้นมแม่ที่ www.thaibreasfeeding.org ชุมชนอันอบอุ่นแห่งนี้รอการเข้ามาเยี่ยมเยียนของทุกๆท่านค่ะ
ขอขอบคุณ คุณแม่ทุกท่านที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ คือ แม่บี แม่อ้อม คุณgatoon แม่จอย แม่แก้ว คุณ j-jaru แม่โอ๊ต แม่น้องนาย คุณsugas88 แม่เนตร แม่กุ๊ก แม่เปิ้ล แม่น้องฮั่น แม่จิ๋ว แม่น้องปาย คุณหมอสุธีรา แม่น้องภีม แม่น้องคริส แม่ปอ-ข้าวกล้อง แม่หมู คุณjumper แม่น้องอันนา แม่น้องธีร์ คุณ jazzy