เมื่อลูกชายคนแรกของฉันเกิด
ท้องนี้ฉันได้รับกำลังใจมากมาย ได้รับความรักที่เต็มสมบูรณ์จากคนรักของฉัน
ถึงแม้ว่าเราสองคน ไม่ได้ตั้งใจให้เขาเกิด
แต่มันเป็นความรักที่สมบูรณ์ เติมเต็มหัวใจของเราสองคน
ลูกของฉันคนนี้ เป็นเด็กที่อัศจรรย์มาก
เป็นเด็กที่ไม่กวนใจฉันเลย
ไม่ได้ให้ฉันลำบาก
มีแต่คนเมตตาต่อฉันเสมอ
จนถึงวันที่ฉันคลอดเลยล่ะ
ก่อนที่ฉันจะคลอด หมอให้ฉันไปนอนที่โรงพยาบาล
เพื่อรอคลอด 1 วัน ให้ไปถึง 3 ทุ่ม
วันนั้น ฉันยังไปนั่งกินน้ำแข็งใสกับเพื่อนของฉันอยู่เลย (แค่ฉันกินไม่ลง ตื่นเต้นมากกว่า)
เพื่อนของฉัน 2 คนนี้น่ารักมากอุตส่าห์มาหาตอน 2 ทุ่ม
เพื่อจะไปส่งฉันที่โรงพยาบาล
รุ่งกับบี เพื่อนฉันตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย
รุ่งแนะนำให้ฉันหลายอย่าง
จนบีสงสัย และทักว่า “ แกเคยท้องเหรอรุ่ง ถึงได้แนะนำได้คล่องแคล่วขนาดนี้”
“บ้าเหรอ พี่เราก็เคยท้องนะย่ะ”
ฉันกับแฟนนั่งหัวเราะ
พอถึงเวลานัด
ฉันจำได้เลยว่า ก่อนที่เข้าห้องเตรียมคลอด
ฉันได้ไปไหว้ พระพุทธเจ้าหลวง ร.5 ด้วย
เพราะพระองค์เป็นผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลเลิดสิน
จากนั้นก็ไปห้องเตรียมคลอด
แฟนฉันเป็นห่วงฉันมาก
รออยู่เป็นเพื่อนจนถึงเวลา
ความรู้สึกตอนนั้น มันทั้งกลัว ทั้งตื่นเต้น
พอได้เข้าห้องแล้ว
ก็จับสวน…… จนหมดไส้หมดพุง
จากนั้นก็นอน
โดยใส่ เครื่องฟังเสียงจังหวะการเต้นหัวใจของเด็ก
ตอนที่ได้ยินครั้งแรก
น้ำตาไหลเลย
นี่เหรอคือเสียงหัวใจของลูก
ที่เราคุยกับเค้าฝ่ายเดียวทุกวัน
มันดัง ตุบๆๆๆๆๆๆ เลย
ฟังแล้ว ลูกเค้าก็คงตื่นเต้นไม่แพ้ฉัน (อันนี้ฉันคิดเอง)
ปกติต้องมีการดิ้นบ้าง แต่วันนี้ไม่ดิ้นเลย อาจเป็นเนื้อที่ในท้องของฉันคงคับแคบไปแล้วมั้ง
หรืออาจเป็นเพราะลูกคงกลับหัวแล้ว หรือเปล่า
ตอนนั้นดูแต่นาฬิกา
มันนานมากเลย
นอนไม่หลับเลยล่ะ
มันกังวลไปทุกอย่าง
ลูกออกมาหน้าตาเป็นยังไงนะ
ลูกออกมาร่างกายครบมั้ย
สวดมนต์ตลอดเลย คืนวันนั้น
สวดคาถาชินบัญชรหลายรอบ
ในห้องนั้น ไม่ได้มีฉันคนเดียวนะ
มีหลายคน แต่เอาผ้าม่านกั้นไว้
พอประมาณ ตี 4- ตี 5 เขาเปิดไฟ
เลยได้คุยกับพี่ข้างเดียง
เค้าน่ะท้อง 2 แล้ว
พี่เค้าบอกกับฉันว่าไม่ต้องกลัวนะ
ไม่เจ็บหรอก
พอประมาณ 6โมง
พี่เค้าเริ่มเจ็บท้องแล้ว
นางพยาบาลเลยพาไปห้องคลอด
เราถามว่า
“พี่จะคลอดแล้วเหรอ”
“จ้า….. พี่ไปก่อนนะ แล้วเจอกัน”
“ค่ะ…..โชคดีนะคะ”
พอสักประมาณ 7 โมง ฉันก็เริ่มเจ็บท้อง
แต่ยังไม่มาก
ได้ยินเจ้าหน้าที่ตะโกนเรียกชื่อฉัน
“คุณช่อเพชร อยู่เตียงไหนคะ”
“อยู่นี่ค่ะ”
“สามีจะคุยด้วยค่ะ” พร้อมยื่นโทรศัพท์ให้
คำถามแรก
“เป็นไงบ้าง ……”
“เจ็บท้องแล้ว”
“เจ็บมากมั้ย”
“ยังไหวอยู่ แค่นี้ก่อนนะ”
ฉันคืนโทรศัพท์ให้เขา
ที่จริงแล้วโรงพยาบาลเขามีข้อห้ามให้สามีเข้ามาในห้องคลอด
แต่สำหรับของฉันเป็นกรณีพิเศษ เพราะสามีตื้อเจ้าหน้าที่ ว่าอยากรู้ว่าฉันเป็นอย่างไรบ้าง
จนเจ้าหน้าที่เขายอมเลยให้คุยทางโทรศัพท์แทน
ในห้องวันนั้นวุ่นวายมากๆ อย่างกับเดินสวนสนามกันเลย
และเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด น้ำเดิน หยดเต็มพื้น เพราะต้องเดินไปห้องคลอด
ส่วนฉันน่ะ นอนอย่างเดียว
ปวดมากๆๆๆๆๆๆๆ ตั้งแต่ หลัง 9 โมง
เจ็บหลังไปหมด จนต้องร้องไห้
เหมือนใครเอาเข็มอันใหญ่ๆ มาทิ่มที่หลังฉันเลยล่ะ
ตอนนั้นฉันจำไม่ได้ว่าปวดทุกๆ กี่นาที (มารู้ตอนหลังว่า จะปวดทุกๆ 10 นาที)
จนเริ่มปวดมาก ทนไม่ไหว
ฉันก็ร้องไห้ อย่างเสียงดัง แบบไม่อายใครเลย
จนเตียงข้างๆ ต้องเรียกพยาบาลมาดู
แต่นางพยาบาลกลับตะโกนตอบกลับมาว่า……..
“คุณช่อเพชรคะ อย่าเพิ่งเบ่งออกมานะ หมอยังไม่มาค่ะ”
เอากะคุณเธอสิ (มานห้ามได้ที่ไหนฟะ)
จนรู้สึกเหมือนว่า ลูกจะออก (จะออกจริงๆนะ เหมือนเขาจะออกมาเลย)
เลยตะโกนเรียก บอกว่า
“ไม่ไหวแล้วค่ะ เหมือนลูกจะออกแล้ววววววว”
นางพยาบาลเลยรีบพาฉันไปห้องคลอด
ยังให้ฉันเดินไปด้วยนะ
ตอนขึ้นเตียง นางพยาบาล ก็เช็คดู
เขาบอกว่า
“ปากมดลูกเปิดเต็มที่แล้วนะคะ”
“ถ้าเหมือนลูกพร้อมเมื่อไร ก็เบ่งนะคะ”
จากนั้นหมอก็เข้ามา
ลูกเหมือนจะรู้ว่าพร้อม(มั้ง) เลยเหมือนกระตุ้นให้ฉันเบ่งเขาออกมา
ตอนที่เบ่งลูก เจ็บมากๆ จนบรรยายไม่ถูก
อึ๊บ อึ๊บ……………………………………. แว๊ แว๊ๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงแรกที่ได้ยิน ลูกฉันร้อง
เห็นหน้าลูก ตัวข๊าว ขาว หน้าตาก็จิ้มลิ้ม
ได้ยินหมอพูดว่า “ลูกเธอตัวใหญ๊ ใหญ่ หลอกหมอกันนี่นา”
จากนั้นก็สลบเลย
……………………………………………………………..
ตอนที่ฟื้นขึ้นมา
แวบแรก ฉันจำไม่ได้ว่าฉันนอนอยู่ทีไหน
ตอนแรกนึกว่ากำลังนอนกลางวันอยู่ที่บ้าน
แต่พอสักพัก เอ๊ะ ที่นี่ไม่ใช่ที่บ้านนิ
ที่ไหนล่ะ
อ๋อ โรงพยาบาล เมื้อกี้ฉันคลอดลูก
ฉันจับท้องทันที
ท้องฉันแฟบ ฉันคลอดลูกแล้ว
แล้วลูกล่ะ ไปไหน
อ๋อ อยู่กับหมอ
ฉันขยับตัว
นางพยาบาลถามว่า
“เป็นไงบ้างคุณ ปวดฉี่มั้ย”
“ค่ะ” แต่ฉันเจ็บมากกว่า
สักพักก็ให้นั่งแทนนอน
และลองให้ฉันยืน เพื่อดูว่ายังมึนหรือเปล่า
ดีขึ้นแล้ว ก็ออกมานอนที่ห้องเดิม แต่เปลี่ยนเตียง
ยังไม่ได้เห็นหน้าลูกเลย
มีของมาเยี่ยมฉันแล้ว
แต่ไม่เห็นหน้าคนเยี่ยม
สักพักเขาให้สามีกับญาติเข้ามา
แต่สามีเข้ามาคนเดียว คนอื่นอยู่หน้าห้อง
ประโยคแรก ฉันถาม
“เห็นหน้าลูกยัง”
“เห็นแล้ว ตัวดำจัง”
“อ้าว ไม่ขาวเหรอ ทำไมเพชรเห็นขาวจัง”
สามีหัวเราะใหญ่
เด็กชายพชร ชื่อแรก ที่ปู่ตั้งให้
น้องพชเกิดวันจันทร์ ที่ 2 กรกฎาคม 2544 เวลา บ่าย 2 โมง 33 นาที
น้ำหนักแรกเกิด 3330 กรัม
คนอื่นเห็นลูกพชกันหมดแล้ว เพราะไปดูที่ห้องเด็กกัน
แต่ฉันสิว่าจะเห็น เย็นมากเลย
เห็นแล้ว กอดเลย หอม แก้ม หน้าผาก ทุกส่วนของร่างกาย
นี่หรือคือเด็กที่อยู่ในท้องฉัน
นี่หรือ ลูกฉัน
ทำไมน่ารักอย่างนี้
และเสียงดังที่สุดในห้องเลย
ตอนนั้นเพื่อนสนิทของฉันมาเยี่ยมฉันกันเกือบหมดเลยล่ะ
ณ เวลานี้ เจ้าพช 7 ขวบ จะย่างเข้า 8 ขวบแล้ว
ก็มีดื้อ ซน น่ารัก ไปตามประสาเด็ก
มีหัวเราะ ร้องไห้
โดนแม่อย่างฉัน ดุ ตี ในยามดื้อ
กอด หอม ในยามที่ทำตัวน่ารัก
แต่สุดท้าย เราสองคนแม่ลูก รักกันเสมอ………….
หลังจากนั้น 6 ปีต่อมา